โคนมจัดเป็นสัตว์กระเพาะรวม หรือ สัตว์เคี้ยวเอี้อง (Ruminant) สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามแหล่งกำเนิด ได้แก่
1.โคนมในเขตหนาว (Bos taurus) เป็นโคที่มีถิ่นเกิดในเขตหนาว หรือมักเรียกว่าโคยุโรป ลักษณะทั่วไป แนวสันหลังเรียบตรง ไม่มีโหนก มีขนค่อนข้างยาว ใบหูสั้นปลายมน ตัวอย่างพันธุ์โคนมในกลุ่มนี้ ได้แก่ พันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน, พันธุ์บราวสวิส, พันธุ์เจอร์ซี่ และพันธุ์เรดเดน เป็นต้น
ลักษณะเด่นทั่วไป เป็นโคที่ให้ผลผลิตน้ำนมสูงเหมาะสำหรับการเลี้ยงในเชิงธุรกิจเพื่อรีดนมจำหน่าย
ลักษณะด้อยทั่วไป ไม่ทนต่ออากาศร้อน อ่อนแอต่อโรคแมลงในเขตร้อนโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับพยาธิในเลือด ที่มีเห็บและแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค เช่น โรคอะนาพลาสโมซีส (Anaplasmosis), โรคไข้เยี่ยวแดง (Babesiosis), โรคไทเลอริโอซีส (Theileriosis) และโรคทริปปาโนโซเมียซีส (Trypanosomiasis)
2.โคนมในเขตร้อน (Bos indicus) เป็นโคที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน หรือ มักมักจะเรียกว่าโคอินเดีย บางครั้งมักเรียกรวม ๆ ว่าโคซีบู (Zebu) ลักษณะทั่วไปมีโหนกที่หลัง มีเหนียงหย่อนยานใต้คอ โครงร่างมีขนาดเล็ก ขนค่อนข้างสั้น ผิวหนังค่อนข้างหย่อนย่นทำให้กระตุกไล่แมลงได้ดี ตัวอย่างพันธุ์โคในกลุ่มนี้ ได้แก่ พันธุ์ซาฮิวาล (Sahiwal), พันธุ์เรดซินดี้ (Red Sindhi) เป็นต้น
ลักษณะเด่นทั่วไป เป็นโคทนทานต่ออากาศร้อน ตลอดจนแมลงและโรคพยาธิในเลือด
ลักษณะด้อยทั่วไป ผลผลิตน้ำนมต่ำ ระยะรีดนมสั้น อั้นนมต้องใช้ลูกโคกระตุ้นจึงปล่อยน้ำนม รีดนมยาก มักเตะขณะรีดนม จึงไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงในเชิงธุรกิจเพื่อรีดนมจำหน่าย แต่เหมาะสำหรับเลี้ยงเพื่อรีดนมกินในครัวเรือน
พันธุ์โคนม
พันธุ์โฮลสตน์ฟรีเชียน หรือพันธุ์ขาว - ดำ (Holstein - Friesian)
พันธุ์เรดเดน (Red Dane)
พันธุ์บราวสวิส (Brown Swiss)
พันธุ์เจอร์ซี่ (Jersey)
พันธุ์เรดซินดี (Red Sindhi)
พันธุ์ซาฮิวาล (Sahiwal)
พันธุ์โคนมที่เลี้ยงในประเทศไทย
พันธุ์ไทยฟรีเชียน (Thai Friesian)
พันธุ์ ที เอ็ม แซด (Thai Milking Zebu)
พันธุ์โฮลสตน์ฟรีเชียน หรือพันธุ์ขาว - ดำ (Holstein - Friesian)
พันธุ์ซาฮิวาล (Sahiwal)
สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการคัดเลือกพันธุ์โคนม
พันธุ์โฮลสตน์ฟรีเชียน หรือพันธุ์ขาว - ดำ (Holstein - Friesian)
พันธุ์เรดเดน (Red Dane)
พันธุ์บราวสวิส (Brown Swiss
พันธุ์เจอร์ซี่ (Jersey)
พันธุ์เรดซินดี (Red Sindhi)
พันธุ์ซาฮิวาล (Sahiwal)
พันธุ์ไทยฟรีเชียน (Thai Friesian)
พันธุ์ ที เอ็ม แซด (Thai Milking Zebu
1.รูปร่างและสี โคแต่ละพันธุ์จะมีรูปร่างและสีเฉพาะ และแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น โคพันธุ์โฮลสไตน์ จะมีสีขาวดำ รูปร่างสูงกว่าพันธุ์เจอร์ซี่ ซึ่งมีสีเหลืองออกน้ำตาล ซึ่งรูปร่างลักษณะและสีนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้น้ำนม แต่อาจมีความสัมพันธ์ทางความพอใจของผู้เลี้ยง
2.ขนาดของพันธุ์ มีความสัมพันธ์ทางการให้นม ถ้าเป็นโคพันธุ์เดียวกัน โคขนาดใหญ่ปกติจะให้นม มากกว่าขนาดเล็ก
3.จำนวนนมที่โคให้ได้ โคแต่ละพันธุ์ให้นมได้เฉลี่ยไม่เท่ากัน โคพันธุ์โฮลสไตน์จะให้นมมากกว่าพันธุ์อื่นๆ รองลงมาคือพันธุ์บราวสวิส เรดเดน พันธุ์เจอร์ซี่มีขนาดเล็กให้นมน้อย และโคพันธุ์อินเดียให้นมน้อยกว่าพันธุ์ยุโรป
4.เปอร์เซนต์ไขมันและส่วนประกอบอื่นๆ โคที่ให้นมน้อยมักจะไขมันนมสูง นอกจากนี้ยังอาจพิจารณาถึงส่วนประกอบอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น โปรตีน ขนาดของเม็ดไขมัน และสีของเม็ดไขมัน
5.การให้เนื้อ ความต้องการใช้เนื้อปัจจุบันมีมาก และนิยมใช้ตัวผู้จากฝูงโคนมมาเลี้ยงเป็นโคเนื้อ ถ้าเลือกพันธุ์ ที่มีขนาดใหญ่และให้เนื้อมาก และมีคุณสมบัติทางการให้นมดีด้วยก็จะให้ประโยชน์เต็มที่ทั้งโคตัวเมียและตัว ผู้ เช่น พันธุ์โฮลสไตน์ บราวสวิส เรดเดน
6.ความทนทาน ในเมืองไทยซึ่งเป็นประเทศร้อนและมีแมลงมาก ความทนทานต่ออากาศร้อนและแมลงนี้ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญต่อการเลี้ยงในประเทศไทย
7.ความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โคบางพันธุ์ตื่นตกใจง่าย หรือมีสิ่งผิดปกติในคอกที่เลี้ยง ซึ่งมีผลไปถึงการให้น้ำนมด้วย โคอินเดียจะไม่ยอมปล่อยน้ำนมหรือหยุดนมเมื่อไม่ให้ลูกดูดนมก่อนรีด โคพันธุ์เจอร์ซี่ จะต้องกระตุ้นเร้าเต้านมก่อนรีด เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น